ค่ำคืนอันน่าตื่นเต้นในโอซาก้า!
เพลิดเพลินกับบาร์ที่เป็นมิตรในชินไซบาชิ

● ชินไซบาชิที่เร่าร้อนตอนกลางคืน!? ความสนุกที่แท้จริงของการท่องเที่ยวยามค่ำคืน

สวัสดี! ผมชื่อ Bryan
เกิดที่นิวยอร์กและเติบโตที่เดนเวอร์ อยู่ที่ญี่ปุ่นมา 15 ปี และอาศัยอยู่ที่โอซาก้ามา 5 ปีแล้ว!

การท่องเที่ยวยามค่ำคืนในคืนนี้ เริ่มต้นที่หน้าห้างสรรพสินค้าไดมารูชินไซบาชิ ติดกับทางออกหมายเลข 6 สถานีชินไซบาชิ Osaka Metro!

ตอนนี้ “#ท่องเที่ยวยามค่ำคืน” คือคีย์เวิร์ดที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นคำที่สื่อถึง “การท่องเที่ยวตอนกลางคืน” ซึ่งหมายถึงนอกจากจะสามารถท่องเที่ยวตอนกลางวันได้แล้ว ยังสามารถเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวตอนกลางคืนได้อีกด้วย เป็นคำสำหรับโอซาก้าซึ่งเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวาที่สามารถเพลิดเพลินได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำจริงๆ!

โอซาก้าได้ชื่อว่าเป็น “ครัวของโลก” มาตั้งแต่สมัยอดีตกาลเพราะมีอาหารอร่อยมากมาย โดยเฉพาะย่านนัมบะและชินไซบาชิซึ่งเป็นเมืองที่เต็มเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาและไม่เคยหลับใหลในยามค่ำคืน ไม่ว่าจะไปที่ไหนทุกคนก็เป็นมิตรและน่าตื่นเต้น ช่วยเติมพลังให้กับหัวใจของผมจนเต็มถังเลย!!

จะขอพาไปแนะนำร้านที่เหมาะกับการท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่จะช่วยเติมเต็มหัวใจของคุณ!!

[PR]
Klook.com

● ผับไอริชแห่งแรกในโอซาก้าที่เป็นมิตรและเป็นกันเอง

ในเมืองโอซาก้ามีบาร์และผับที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นชาวต่างชาติอยู่มากมาย แต่ที่อยากจะขอแนะนำเป็นพิเศษเลยก็คือผับไอริช!

คำว่า “ไอริช” ของผับไอริช เป็นชื่อของไอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศที่สงบและอุดมสมบูรณ์ด้วยไร่นา ตั้งอยู่ทางตะวันตกของอังกฤษ ถึงแม้ว่า “ผับ” จะเป็นชื่อเรียกทั่วไปของร้านที่สามารถเพลิดเพลินกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกับแกล้ม ฯลฯ ได้อย่างสบายๆ แต่คำว่า “ผับ” ในไอร์แลนด์ ไม่ได้หมายความถึงแค่สถานที่สำหรับรับประทานอาหารและดื่มเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่เพื่อการเข้าสังคมสำหรับผู้ใหญ่ ที่สามารถเพลิดเพลินกับดนตรี การสนทนาและการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับคนในท้องถิ่นอีกด้วย

ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านที่สนุกสนานสามารถเริ่มต้นบทสนทนากับคนที่ไม่รู้จักกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเพลิดเพลินกับเบียร์กินเนสส์และวิสกี้ไอริชไปด้วย ใช่แล้ว นี่แหละคือเสน่ห์ของผับไอริช! อืมม เป็นอะไรที่เยี่ยมมากเลย

เอาล่ะ เราได้มาถึง “Murphy‘s Irish Pub” ซึ่งเป็นสถานที่ยอดนิยมในชินไซบาชิที่พลุกพล่านด้วยผู้คน นับตั้งแต่ที่เปิดร้านในปี 1991 ในฐานะผับไอริชแห่งแรกในโอซาก้า “Murphy ‘s Irish Pub”

หากพูดถึงไอร์แลนด์แล้วล่ะก็ รู้จัก “วันเซนต์แพททริค (St Patrick’s Day)” กันไหม?

เป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของเซนต์แพททริค ผู้เผยแพร่ศาสนาคริสต์ในไอร์แลนด์ และเนื่องจากไอร์แลนด์มีวัฒนธรรมฉลองในวันนี้ ภายในเมืองจึงถูกย้อมไปด้วยสีเขียวหมดเลย! แม้แต่อาหาร เบียร์ ฯลฯ ก็ยังเป็นสีเขียว เรียกได้ว่าเป็นเทศกาลสีเขียวจริงๆ

พอขึ้นบันไดแคบๆ สีเขียวที่ชวนให้นึกถึงวันเซนต์แพททริค ก็จะได้ยินเสียงพลุกพล่าน ดูเหมือนว่าคืนนี้ก็กำลังสนุกเฮฮากันอยู่เช่นเคย♪

● เบียร์และวิสกี้แนะนำของ Murphy's Irish Pub

ถ้าได้มาที่ Murphy’s ก่อนอื่นต้องดื่มคราฟต์เบียร์ก่อนเลย! มีเบียร์หลายประเภทจนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกอันไหนดี แต่วันนี้ตัดสินใจเลือก “เบียร์ O’hara’s IRISH RED” ที่เจ้าของร้านแนะนำ!

เมนูประจำของผับที่เข้ากันได้ดีกับเครื่องดื่มก็คือฟิชแอนด์ชิปส์ ปลาเนื้อขาวทอดที่กรอบนอกนุ่มในและเฟรนช์ฟรายส์ ที่ทานโดยคลุกเคล้ากับซอสทาร์ทาร์และน้ำส้มสายชู ช่างเป็นการจับคู่ที่ไม่ทำให้ผิดหวังที่เข้ากันได้ดีกับคราฟต์เบียร์จริงๆ!

ที่ Murphy’s มีแอลกอฮอล์หลากหลายชนิดมาก ตัดสินใจยากจริงๆ ว่าจะเลือกวิสกี้ขวดไหนจากเหล่าวิสกี้ที่วางเรียงรายกันอยู่มากมายนี้ดี

ถัดมา ผมเลือก “GREEN SPOT” ซึ่งเป็นวิสกี้ไอริชที่ขึ้นชื่อเรื่องความหายากเพราะผลิตเพียง 6,000 ขวดต่อปีเท่านั้น! ที่มาของชื่อมาจากประเพณีการทาสีถังไม้หมักเหล้าตามอายุการบ่ม ซึ่งการทาสีหมายถึง SPOT (เครื่องหมาย) นั่นเอง

มีลักษณะเฉพาะตัว คือมีกลิ่นหอมสดชื่นของผลไม้จากแอปเปิ้ลเขียวและองุ่น มีรสหวานเหมือนไซรัปและให้รสชาติสัมผัสในการดื่มที่เบาและกลมกล่อม เพราะรสชาติที่นุ่มนวลและสดชื่นนี้เอง คิดว่าผู้เริ่มต้นดื่มวิสกี้และคุณผู้หญิงน่าจะดื่มได้ง่าย แนะนำให้ดื่มแบบใส่น้ำแข็งหรือดื่มเพียว

● โอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่ Murphy's Irish Pub☆彡

ชนแก้วกับพนักงานทุกคนล้อมรอบตัวคุณ Michael ซึ่งเป็นเจ้าของร้านชาวไอริช!!! ถึงแม้จะมีลูกค้าขาประจำมากมายที่มาร้านเพราะอยากเจอคุณ Michael เป็นพิเศษ เพราะทั้งร่าเริงและทำให้ที่นี่สนุกเฮฮาอยู่ตลอด แต่สำหรับท่านที่มาครั้งแรกก็ไม่ต้องกังวล♪ เพราะเค้าจะมาคุยด้วยแบบเป็นกันเองและถามหาแอลกอฮอล์ที่ชอบให้อย่างเชี่ยวชาญ

พอดื่มแอลกอฮอล์หมดไป 2 ถึง 3 แก้ว คุณก็จะกลายเป็นเพื่อนกับคนรอบตัวคุณโดยธรรมชาติ♪ เวลาแบบนี้แหละที่ต้องดื่มช็อต ชนแก้ว!

ผู้คนมากมายที่แตกต่างกันหลากหลายช่วงอายุหลากหลายอาชีพที่เดินทางมาญี่ปุ่นจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก ดื่มแอลกอฮอล์ด้วยกันในสถานที่เดียวกันระหว่างที่พูดคุยเรื่องทั่วไปกัน ในภาษาญี่ปุ่น น่าจะเรียกว่า “โอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต อิจิโกะ อิจิเอะ อิจิโกะ อิจิเอะ” หรือเปล่านะ?

ที่สุดของเสน่ห์ของผับไอริชคือความรู้สึกขอบคุณกับการที่ได้พบเจอในวันนั้นและความรู้สึกที่อยากไปอีกเพื่อการพบเจอครั้งใหม่!

นอกจากนี้ ที่ชั้นบนของ Murphy’s มีพื้นที่ที่สามารถร้องคาราโอเกะ ฟังดนตรีสดและชมกีฬาได้ด้วยนะ~!
เมื่อมีเกมการแข่งขันที่น่าสนใจ ก็อยากแนะนำให้ทุกคนมาชมกีฬาด้วยกัน การที่มีวิธีการเพลิดเพลินที่หลากหลาย ก็เป็นเสน่ห์ของ Murphy’s ด้วยเหมือนกัน

● หลังจากดื่มเสร็จแล้วก็ต้องปิดท้ายด้วยราเม็ง!

สิ่งที่เป็นตัวแทนในการปิดท้าย หลังจากดื่มแอลกอฮอล์เสร็จแล้ว ก็คือราเม็ง! พอดื่มแอลกอฮอล์แล้ว ก็รู้สึกอยากจะกินขึ้นมาสุดๆ~ เลยจะมาปิดท้ายที่ร้าน “โคเทเมนไดจัง” ในซอยเล็กที่ให้บรรยากาศความเป็นชินไซบาชิ!

โคเทเมนไดจัง เป็นร้านเล็กๆ ที่มีเพียงเคาน์เตอร์ นอกจากราเม็งแล้ว ยังมีกับแกล้มมากมายที่เน้นไปทางอาหารจีน เช่น เต้าหู้เสฉวนและกุ้งผัดซอสพริก ฯลฯ ที่จะช่วยให้ “รู้สึกอยากดื่มอีกแก้ว!”

ถึงแม้ว่าตั้งใจจะมาเพื่อปิดท้าย แต่ก็ถูกล่อด้วยกลิ่นหอมของเกี๊ยวซ่า จนอดไม่ได้ที่จะสั่งเกี๊ยวซ่าและเบียร์ กินเกี๊ยวซ่าที่ทอดมากรอบๆ พร้อมกับดื่มเบียร์ตาม อืมม~ มันเยี่ยมไปเลย♪

ราเม็งที่รอคอยมานาน! ตอนที่ได้รับชามราเม็งผ่านทางเคาน์เตอร์นี่รู้สึกตื่นเต้นจริงๆ♪ ขอกินราเม็งเกลือซุปใสนี้ก่อนเลยละกัน! อืมม ความอร่อยที่แทรกซึมเข้าร่างกายที่เหนื่อยล้า

ซุปใสที่สัมผัสถึงรสอร่อยของกระดูกไก่ได้อย่างชัดเจน เส้นเหนียวนุ่มเด้งสู้ฟันที่หนาปานกลาง เสริมด้วยท็อปปิ้งผักมิซูน่าที่เข้ากันได้ดี♪
เป็นราเม็งเกลือที่เรียบง่ายแต่ละเอียดอ่อนมาก

ที่นี่ก็ได้พูดคุยเล็กน้อยกับลูกค้าที่อยู่ข้างๆ ช่างเป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ♪

แค่คืนนี้ก็ได้พบเจอกับผู้คนหลากหลายคนเหมือนกันนะ~ ว่ากันว่าสิ่งที่มีชื่อเสียงของโอซาก้าคือ “ผู้คน” ซึ่งผมก็รู้สึกอย่างนั้นจากใจจริงๆ

หากต้องการใช้ชีวิตท่องเที่ยวยามค่ำคืนในชินไซบาชิ คิดว่าควรเป็นคนเริ่มพูดคุยก่อนนะ! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะได้ความทรงจำที่ยากจะลืมเลือนในโอซาก้าอย่างแน่นอน! อยากให้ทุกคนเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวยามค่ำคืนที่แสนวิเศษนี้กันนะ♪

[PR]

Klook.com