วากาชิคืออะไร?
“วากาชิ” ขนมหวานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น
ขนมของญี่ปุ่นเป็นที่นิยมนะ ทั้งไดฟุกุ โมจิ และโดรายากิ !
2023.09.15
Written by: リナ(rina)
● จุดเริ่มต้นของวากาชิ มีมาตั้งแต่ 2000 กว่าปีที่แล้ว ! ?
อยากจะขอพูดถึง “วากาชิ” ขนมหวานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น
หากพูดถึงวากาชิแล้ว จะนึกถึงอะไรกันก่อน? ไดฟุกุ, โมจิ, โดรายากิ, โมนากะ (ขนมญี่ปุ่นชนิดหนึ่งทำจากแผ่นแป้งบาง ๆ ประกบกันสอดไส้ถั่วแดง)… ฯลฯ มีหลายประเภทมากขนาดที่พูดออกมาได้ไม่หมดเลย
เอาล่ะ ไปลองส่องดูโลกของวากาชิที่ลึกล้ำนั้นกันเถอะ♪
ประวัติศาสตร์ของวากาชินั้น ย้อนจากปัจจุบันไปถึงกว่า 2,000 ปีที่แล้ว ในยุคสมัยโจมง (ยุคหินใหม่ในประวัติศาสตร์โลก) ว่ากันว่าการนำผลของต้นไม้มาบด จากนั้นใช้น้ำเอาฟองออก แล้วนำมาคลึงเป็นลูกกลมนั้น เป็นจุดเริ่มต้นของดังโงะ เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก ที่มีต้นแบบของวากาชิมาตั้งแต่เมื่อนานมาแล้วขนาดนี้ !
ในช่วงยุคสมัยอาสุกะ/นาระ (ช่วงปี 600~700) มีการถ่ายทอดวิธีการผลิตขนมจากจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจากนั้น ก็ได้มีการประยุกต์วิธีการผลิตเฉพาะตัวของญี่ปุ่นเข้าไป ฯลฯ พร้อมกับการพัฒนาของวัฒนธรรมการดื่มชา ทำให้เกิดเป็นวากาชิที่มีรูปร่างสวยงามในปัจจุบัน
จากนั้น ในช่วงสมัยเอโดะ (ปี 1603~1868) วากาชิที่มีความเฉพาะตัวจากแต่ละพื้นที่ทั่วญี่ปุ่นก็ถือกำเนิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง และวัฒนธรรมวากาชิก็ได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ว่ากันว่า วากาชิที่ทานกันอยู่ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่ ถูกทำขึ้นในยุคสมัยนี้! นอกจากนี้ ร้านเก่าแก่ที่ยังคงอยู่ในปัจจุบัน เช่น อาคาฟุคุ สาขาหลักของอิเสะ และอิซุสุยาสึฮาชิ สาขาหลักของเกียวโต ฯลฯ ก็ถูกก่อตั้งขึ้นในยุคสมัยนี้
ด้วยเรื่องราวแบบนี้เอง วากาชิ จึงได้รับการสืบทอดมาจนถึงยุคสมัยปัจจุบัน และกลายเป็นขนมที่ผู้คนมากมายชื่นชอบนี่เอง♪
[PR]
Klook.com
● ประเภท และประวัติศาสตร์ของวากาชิ
วากาชิที่มีหลากหลายประเภทนั้น ถูกแบ่งประเภทโดยละเอียด ตามปริมาณน้ำ วิธีการผลิต และการใช้งาน ฯลฯ ครั้งนี้ ไปดูประเภทของวากาชิที่คุ้นเคยกันดีในญี่ปุ่นพร้อมกับประวัติศาสตร์กันเถอะ
ดังโงะ
ทำจากการใช้แป้งข้าวเจ้า เช่น ข้าวเหนียว (โมจิโกเมะ) หรือข้าวสวย (อุรุจิโกเมะ) นำมาปั้นเป็นก้อนกลมเล็กๆ มีเอกลักษณ์คือรสสัมผัสที่ยืดหยุ่นและเหนียว ดูเหมือนจะถูกเรียกว่า “ดังโกะ” ในยุคสมัยเฮอัน (ปี 794~1185) และเป็นหนึ่งในวากาชิที่มีประวัติศาสตร์อันเก่าแก่! เป็นที่นิยมโดยเฉพาะดังโงะเสียบไม้ เช่น มิทาราชิดังโงะที่ราดซอสน้ำตาลโชยุ และฮานามิดังโงะที่น่ารัก มีสามสี คือ สีเขียว สีขาว และสีชมพู ฯลฯ
ไดฟุกุ
วากาชิที่ทำโดยการห่อไส้ถั่วแดงในแป้งโมจิ แล้วทำเป็นรูปร่างกลมสีขาวสวยงาม ว่ากันว่ามีจุดเริ่มต้นมาจากการนำอุสุระโมจิ (โมจินกกระทา) ซึ่งคนทั่วไปทานกันในยุคสมัยเอโดะ (ปี 1603~1868) มาโรยด้วยน้ำตาล และกลายเป็นที่นิยมทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ส่วนไดฟุกุนั้น มีการใส่ไอเดียของช่างฝีมืออย่างเต็มที่ เป็นที่ชื่นชอบของทุกเพศทุกวัย และมีวิธีการทำที่หลากหลาย เช่น ไดฟุกุถั่วซึ่งเป็นที่นิยมมาตั้งแต่สมัยก่อน และไดฟุกุสตรอเบอร์รี่ที่กลายเป็นวากาชิยอดนิยม ฯลฯ
โมจิ
วากาชิที่ใช้แป้งโมจินั้น เป็นวากาชิที่มีจำนวนประเภทมากที่สุด! เช่น “คาชิวะโมจิ” ที่ห่อด้วยใบคาชิวะ หรือ “ซากุระโมจิ” ที่ห่อด้วยใบซากุระ ซึ่งทำโดยวางถั่วแดงกวนลงบนแป้งโมจิกลมแบนแล้วพับครึ่ง และ “วาราบิโมจิ” ที่ราดด้วยผงถั่วคินาโกะ และน้ำผึ้งดำ ฯลฯ นอกจากนี้ ยังมีขนมโมจิท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศอีกมากมาย ซึ่งโอซาก้านั้น จะมีชื่อเสียงในเรื่อง “เคชิโมจิ” ที่ทำโดยการโรยเมล็ดป๊อบปี้ที่มีกลิ่นหอมลงบนโมจิ
มันจู
“มันจูชา” ของฝากที่ระลึกยอดนิยมในพื้นที่น้ำพุร้อน ฯลฯ เป็นไส้ถั่วแดงกวนที่ห่อด้วยเนื้อแป้งที่มีส่วนผสมของแป้งสาลี และน้ำตาลทรายแดง อีกทั้งยังเป็นวากาชิที่คุ้นเคยกันดี อย่าง “โจโยมันจู” ซึ่งรู้จักกันว่าเป็นมันจูสีแดง และสีขาวที่มอบให้ในงานแต่งงาน และงานเฉลิมฉลองต่างๆ ส่วน “มันจูเหล้าสาเก” ซึ่งมีกลิ่นหอมของเหล้าสาเกนั้น ว่ากันว่าเป็นต้นกำเนิดของมันจูญี่ปุ่น มีขั้นตอนการทำคล้ายกับเหล้าสาเก และได้รับความนิยมจากชาวต่างชาติในฐานะมันจูแบบหมัก
ไทยากิ
วากาชิที่ทำโดยการห่อถั่วแดงกวนในเนื้อแป้งที่ทำโดยการละลายแป้งสาลีในน้ำ ใส่ลงในแม่พิมพ์ที่มีรูปร่างเหมือนปลากะพงแล้วนำไปอบ มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับต้นกำเนิดของไทยากิ แต่ที่ดูน่าเชื่อถือที่สุด ว่ากันว่ามาจากอิมากาวะยากิ (เป็นรูปทรงกลมที่มีวิธีการทำเดียวกับไทยากิ) ในยุคสมัยเมจิ (ปี 1868~1912) มีรูปลักษณ์ที่ดูน่ารัก และ “ว่ายน้ำไป! ไทยากิคุง” เพลงกล่อมเด็กที่ร้องเกี่ยวกับไทยากิ ซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 1975 นั้น ได้รับความนิยมสุดๆ มากกว่า 4.5 ล้านคน และได้รับการลงบันทึกสถิติโลกกินเนสส์! เป็นตัวแทนของวากาชิ ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ชาวญี่ปุ่น แต่ยังเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติอีกด้วย
คาสเทลล่า
วากาชิที่เหมือนกับขนมเค้กนุ่มฟู ที่ทำโดยการอบเนื้อแป้งที่มีส่วนผสมของแป้งสาลี ไข่ และน้ำตาล ด้วยเตาอบ ว่ากันว่า เป็นการทำให้เหมือนกับขนมที่มีชื่อเรียกว่า “Pao de Lo” ซึ่งถ่ายทอดมาถึงนางาซากิโดยพ่อค้าชาวโปรตุเกสในยุคสมัยมุโรมาจิ (ปี 1336~1573) ซึ่งสร้างกระแสการเปลี่ยนแปลงให้กับวากาชิของญี่ปุ่น ด้วยวิธีการผลิตที่ไม่เคยมีมาก่อน และเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนมาอย่างยาวนาน ด้วยรสชาติที่เรียบง่าย แต่ละเอียดอ่อน
โยคัง
วากาชิ ที่ทำโดยการกวนในระหว่างที่ต้มถั่วแดงกวนที่ใส่น้ำตาล และวุ้นลงไป แล้วเทลงในแม่พิมพ์เพื่อทำให้แข็งตัว แต่เดิมโยคัง หมายถึงซุปที่ทำโดยการต้มเนื้อแกะในอาหารจีน ว่ากันว่าถ่ายทอดมาที่ญี่ปุ่นในยุคสมัยคามาคุระ/มุโรมาจิ (ปี 1185~1573) โดยพระสงฆ์ แต่เนื่องจากการกินเนื้อสัตว์เป็นสิ่งต้องห้ามในพุทธศาสนา ณ ตอนนั้น จึงใช้ถั่วแดงแทนแกะ และได้กลายเป็นต้นแบบของโยคังในญี่ปุ่น และมิสุโยคังที่มีส่วนประกอบของน้ำมากคล้ายเยลลี่ก็เป็นที่นิยมเช่นกัน
เนริคิริ
วากาชิที่ขาดไม่ได้สำหรับ “การต้อนรับ” ทำจากเนื้อแป้งนวดผสมถั่วขาวกวน และตัวช่วยให้ยึดเกาะ จัดอยู่ในประเภทขนมสดชั้นสูงที่เสิร์ฟในพิธีชงชา ฯลฯ มีลักษณะเด่นตรงดีไซน์ที่สวยงามและละเอียดอ่อน เป็นรูปร่างดอกไม้ตามฤดูกาล ฯลฯ เช่น ดอกบ๊วย ดอกอาจิไซ ฯลฯ และมีรสชาติที่ละเอียดอ่อน เนริคิริซึ่งปรากฏตัวในช่วงปลายยุคสมัยเอโดะ (ช่วงปี 1800) ถูกเรียกกันว่าเป็น “ศิลปะที่ทานได้” ซึ่งเปล่งประกายฝีมือของช่างฝีมือ
● มาลิ้มรสขนมตามฤดูกาลทั้งสี่กันเถอะ♪
การที่สามารถสัมผัสได้ถึงการมาถึงของฤดูกาลทั้งสี่ ก็เป็นความน่าสนใจอย่างหนึ่งของวากาชิ
และสามารถลิ้มรสวากาชิตามฤดูกาลทั้งสี่ได้คือ ซากุระโมจิและฮานามิดังโงะช่วงฤดูใบไม้ผลิ มิสุโยกังช่วงฤดูร้อน โอฮางิและคุริคินตงช่วงฤดูใบไม้ร่วง และยูซุโมจิช่วงฤดูหนาว
นอกจากนี้ ก็ยังมีแสดงถึงฤดูกาลด้วยรูปร่างของวากาชิ ซึ่งเนริคิริ สามารถเพลิดเพลินกับรูปร่างและสีสันที่สวยงามของดอกซากุระ ดอกบ๊วย ดอกเบญจมาศ ฯลฯ ในแต่ละฤดูกาลได้
วากาชิที่แต่ละชิ้นมีขนบธรรมเนียมประเพณี ประวัติศาสตร์ และความนึกคิดอยู่อยู่ข้างใน หาซื้อได้ง่ายตามร้านวากาชิที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศญี่ปุ่น มีตั้งแต่ร้านเก่าแก่ไปจนถึงร้านใหม่ รวมถึงห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อ หากได้มาเยือนประเทศญี่ปุ่น สนใจมาลองลิ้มรสวากาชิไปพร้อมกับสัมผัสถึงความสวยงามของแต่ละฤดูกาลทั้งสี่กันดูไหม ?
*ข้อมูลในบทความนี้มาจากปี 2021
[PR]
Klook.com
แผนการท่องเที่ยวที่ Osaka Metro แนะนำ
อาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น “ข้าวปั้นโอนิกิริ!”
ร้านขายข้าวปั้นโอนิกิริโดยเฉพาะที่สามารถซื้อกลับได้ตามสายรถไฟ Osaka Metro
“ข้าวปั้นโอนิกิริ” ซึ่งเป็นอาหารดั้งเดิมที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบมากนั้น เป็นอาหารง่ายๆ …
2024.11.15
[สถานที่แห่งใหม่] ตื่นเต้นกับซูโม่ในนัมบะ!
โชว์เพื่อความบันเทิงเชิงสัมผัสประสบการณ์ที่สามารถสนุกสนานได้ด้วยภาษาอังกฤษ
“THE SUMO HALL ฮิราคุสะ OSAKA” ถือกำเนิดขึ้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2024 …
2024.07.05
หยุดพักหายใจพร้อมรื่นรมย์ไปกับขนมญี่ปุ่น♪
“สวนชาคาเฟ่ในวัด” ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดอายุ 400 ปี
สวัสดีครับ! ผมชื่อยุนมาจากเกาหลีครับ ช่วงนี้ผมเห็นคำว่า "คาเฟ่ในวัด" บ่อยมาก …
2024.05.24